Put your alternative Non Flash content here.

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Floor Cleaning Shoes




เบื่อไหมกับการกวาดบ้าน ถ้าคุณเบื่อ สิ่งนี้จะช่วยคุณ

สุดเจ๋งกับรองเท้าทำความสะอาดบ้าน รองเท้าไหมพรมธรรมดาถึงกับจ่อยกันไปเลยทีเดียว

แค่เดินๆ บ้านก็สะอาดได้  แถมยังฆ่าเชื้อแบททีเรียได้อีก มทำงานแแบระบบไร้สาย

มีจอ LCD แสดงปริมาณของแบทเตอรรี่ ทำความสะอาทพื้นทุกขั้นตอนเพียงเดินผ่าน


ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.yankodesign.com/2010/11/22/shoes-that-clean-the-floor/



Solar cell พลังงานแสงอาทิตย์



    PV หรือ Solar Cell คือ อุปกรณ์ที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์หรือแสงสว่างได้โดยตรง เซลล์แสงอาทิตย์สร้างจากสารกึ่งตัวนำ เช่น ซิลิคอน (Silicon), แกลเลี่ยม อาเซไนด์ (Gallium Arrsenide), อินเดียม ฟอสไฟด์ (Indium Phosphide), แคดเมียม เทลเลอไรด์ (Cadmium Telluride) และคอปเปอร์ อินเดียม ไดเซเลไนด์ (Copper Indium Diselenide) เมื่อดูดกลืนพลังงานแสงอาทิตย์แล้วเปลี่ยนเป็นพาหะนำไฟฟ้า และจะถูกแยกเป็นประจุไฟฟ้าบวกและลบเพื่อให้เกิดแรงดันไฟฟ้าที่ขั้วทั้งสองของเซลล์แสงอาทิตย์ เมื่อนำขั้วของเซลล์แสงอาทิตย์ต่อเข้ากับอุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสตรง จะสามารถทำงานได้

   ในการผลิตพลังงานไฟฟ้าของเซลล์แสงอาทิตย์ จะใช้หลักการโฟโตอิเล็กตริกของสารกึ่งตัวนำ โดยใช้การเคลื่อนของอิเล็กตรอน ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการสึกหรอของวัตถุ ทำให้อายุการใช้งานของเซลล์แสงอาทิตย์ยาวนานถึง 20-25 ปี
  
   โดยทั่วไปแล้วพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบพื้นโลกบนพื้นที่ 1 ตารางเมตรจะได้รับพลังงานประมาณ 1,000 วัตต์ ซึ่งใน 1 วันเราสามารถรับพลังงานแสงอาทิตย์ได้เต็มที่ประมาณ 4-5 ชั่วโมง และประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 10-16% ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งหมายความว่า เซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 1 ตารางเมตรสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ 100-160 วัตต์ และใน 1 วันสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 500-800 วัตต์

   ด้วยตัวของเซลล์แสงอาทิตย์เองนั้นไม่สามารถกักเก็บพลังงานไว้ได้ แต่เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นกระแสไฟฟ้า โดยเมื่อดูดกลืนแสงอาทิตย์ได้จะผ่านกระบวนการก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นไฟฟ้ากระแสตรง สามารถนำกระแสไฟฟ้าไปใช้ได้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับไฟฟ้ากระแสตรงเท่านั้น เนื่องจากกระแสไฟฟ้าที่ได้จากเซลล์แสงอาทิตย์ไม่มากนัก จึงมีการนำเซลล์หลายๆ เซลล์มาต่อกันเป็นแผง เพื่อให้ได้กระแสไฟฟ้ามากเพียงพอสำหรับใช้งาน และหากต้องการเก็บพลังงานไว้ใช้เวลาไม่มีแสงแดดหรือใช้งานอื่นๆ จะต้องนำเซลล์ต่อเข้ากับแบตเตอรี่ (Battery) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเก็บพลังงานไว้ใช้ รวมถึงต้องมีเครื่องควบคุมการประจุ (Charge Controller) ซึ่งจะทำหน้าที่ควบคุมและป้องกันการประจุกระแสไฟฟ้าให้มีปริมาณเหมาะสมกับแบตเตอรี่

   สภาพอากาศเย็นจะทำให้เซลล์แสงอาทิตย์มีประสิทธิภาพสูงในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า และทำงานได้ดีกว่าในสภาวะที่อุณหภูมิสูงหรืออากาศร้อน สาเหตุ คือ เซลล์แสงอาทิตย์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ กลไกการทำงานบางอย่าง ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงานในสภาวะอากาศที่อุณหภูมิสูง สำหรับในฤดูหนาว ซึ่งสภาพอากาศเย็น แต่เซลล์แสงอาทิตย์กลับสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้น้อยกว่าในฤดูร้อน ทั้งนี้เพราะช่วงเวลากลางวันสั้นกว่า, ดวงอาทิตย์ทำมุมต่ำกว่า และมีเมฆปกคลุมบดบังแสงอาทิตย์มากกว่าฤดูร้อน



กลไกการทำงานของปืน


ลองมาดูกันว่ากว่าจะถูกยิงด้วยปืน ปืนมันทำอะไรบ้าง?





      ปืน เป็นอาวุธซึ่งยิงกระสุนหนึ่งหรือมากกว่าด้วยความเร็วสูงผ่านทางการควบคุมการระเบิดของดินปืน การยิงเกิดขึ้นได้โดยแก๊สที่เกิดอย่างรวดเร็ว กระบวนการการเผาไหม้ที่รวดเร็วนี้เรียกว่าดีแฟล็กเกรชั่น (deflagration) ในอาวุธปืนแบบเก่าการเคลื่อนที่นี้เกิดจากดินปืน แต่ในยุคปัจจุบันอาวุธปืนนั้นจะใช้ดินปืนที่มีควันน้อยกว่า คอร์ไดท์ หรืออื่นๆ อาวุธปืนในปัจจุบัน (ยกเว้นปืนลูกซอง) จะมีลำกล้องที่ข้างในทำร่องเป็นเกลียวเพื่อเพิ่มการหมุนให้กับกระสุนซึ่งจะสร้างความมีเสถียรภาพ





เคริ่งบินบินได้อย่างไร?



     
     เครื่องบินจะลอยตัวไปในอากาศได้นั้น ตัวเครื่องบินจะต้องมีความเร็วไปทางด้านหน้าเพื่อให้ปีกของเครื่องบินปะทะกับอากาศที่ไหลผ่านปีกไปเร็วขึ้น กระแสอากาศที่ไหลมาปะทะผ่านไปทางด้านล่างปีกจะทำให้เกิดแรงดันจากด้านล่างปีกขึ้นไปด้านบน อันเนื่องมาจากความดันของกระแสอากาศด้านบนของปีกจะยิ่งลดลง เมื่อความเร็วของเครื่องบินเพิ่มสูงขึ้น และแรงดันของกระแสอากาศภายใต้ปีกเพิ่มขึ้นจึงดันตัวขึ้นเป็นแรงยกทำให้เครื่องบินสามารถลอยตัวขึ้นไปได้ในอากาศตราบเท่าที่เครื่องบินยังมีความเร็วเพียงพออยู่




เครื่องบินบินได้อย่างไร ตามสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนเล่นที่ 1 โดย มานพ สุริยะ กล่าวว่า

 เครื่องบินจะลอยตัวและบินไปได้ ต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญสี่ประการ คือ
          ๑. บ่อเกิดแห่งกำลัง ได้แก่ เครื่องยนต์ซึ่งจะหมุนใบพัดให้เกิดแรงฉุดหรือดันเครื่องบินให้เคลื่อนที่ไป แรงฉุดหรือดันนี้ต้องมากพอที่จะเอาชนะแรงต้านซึ่งจะรักษาสภาพอยู่นิ่งของเครื่องบินไว้
          สำหรับแรงขับเคลื่อนเครื่องบินไอพ่น คือ แรงปฏิกิริยาหรือแรงโต้ตอบของแรงผลักของก๊าซร้อนซึ่งเกิดจากการเผาไหม้และพลุ่งออกทางหางของเครื่องบิน
          ๒. พื้นที่ให้กำลังยกหรือแรงยก ได้แก่ ปีกซึ่งพยุงยกเครื่องบินเอาไว้ในอากาศ
          ๓. เครื่องบังคับต่างๆ ซึ่งทำให้เครื่องบินเลี้ยวไปในทิศทางต่างๆ หรือไต่ขึ้นและร่อนลงสู่จุดหมายใดๆ ได้ตามความประสงค์ของนักบิน
          ๔. ส่วนประกอบที่เป็นโครงของเครื่องบิน ได้แก่ ลำตัว ซึ่งเป็นที่สำหรับบรรทุกสิ่งต่างๆและเป็นเครื่องยึดชิ้นส่วนอื่นๆ เช่น ใบพัด ปีก หาง ทั้งยังเป็นตัวการช่วยถ่วงให้เกิดความสมดุลของแรงต่างๆ ที่จะทำให้เครื่องทรงตัวอยู่ได้
          สำหรับฐานและล้อรับหางนั้น มีหน้าที่ช่วยรับน้ำหนักเอาไว้เมื่อเครื่องบินจอดอยู่บนพื้นดิน
          เนื่องจากปีกมีคุณสมบัติทำให้เกิดแรงยก ดังที่ได้อธิบายมาแล้ว เมื่อเครื่องบินเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยแรงฉุดของใบพัดจนกระทั่งกระแสอากาศไหลผ่านผิวปีกทั้งสองด้านด้วยความเร็วเหมาะสม เครื่องบินก็จะลอยตัวขึ้นจากพื้นด้วยแรงยกซึ่งเกิดขึ้นบนปีกทั้งสองข้าง และสามารถบินอยู่ในอากาศได้
          ถ้าลดแรงฉุดของใบพัดลง กระแสอากาศที่ไหลผ่านปีกก็จะลดความเร็วลงด้วย เป็นเหตุให้แรงยกซึ่งเกิดขึ้นบนปีกต้องลดลงตาม ทำให้เครื่องบินไม่สามารถเกาะอากาศอยู่ต่อไปอีก และต้องเสียระยะสูงลงเรื่อยๆ
          ขณะที่เครื่องบินกำลังลอยอยู่ในอากาศ ถ้ากระแสอากาศที่ไหลผ่านปีกเกิดลดความเร็วลงจนกระทั่งถึงจุดหนึ่งซึ่งแรงยกไม่สามารถจะพยุงเครื่องบินทั้งเครื่องไว้ได้แล้ว เครื่องบินจะร่วงหล่นคือไม่สามารถเกาะอากาศอยู่ต่อไปได้อีก และจะตกลงสู่พื้นดินตามแรงดึงดูดของโลก ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดขณะกำลังบินอยู่ในอากาศ คือ ไม่ว่าเครื่องยนต์จะยังทำงานอยู่หรือไม่ก็ตาม จะต้องรักษาความเร็วของอากาศที่ไหลผ่านผิวปีกหรืออีกนัยหนึ่งรักษาความเร็วของเครื่องบินไว้เหนือความเร็วร่วงหล่นเสมอจึงจะปลอดภัย



          การขับเครื่องบินไม่ยากไปกว่าการขับยานพาหนะอื่นๆ เมื่อเครื่องยนต์เดินเรียบร้อยแล้วนักบินจะวิทยุไปที่หอบังคับการบินเพื่อขออนุญาตขับเครื่องบินไปตั้งตัวที่ปลายทางวิ่ง ณ ที่นี้ นักบินจะตรวจสอบทดลองการทำงานของชิ้นส่วน เครื่องวัด และอุปกรณ์จำเป็นทุกรายการที่เขียนไว้ในคู่มือของเครื่องบิน แบบนั้นๆ เมื่อหอบังคับการบินพูดวิทยุอนุมัติให้ขึ้นบินได้ นักบินจะเริ่มเร่งเครื่องยนต์ให้เครื่องบินเคลื่อนที่ออกวิ่งทวนลม นักบินต้องใช้มือและเท้าแตะไว้ที่คันบังคับ คอยเลี้ยงเครื่องอย่างเบาๆ ให้เครื่องวิ่งตรงอยู่ในทาง ไม่เซไปเซมา เครื่องจะค่อยๆ เร็วขึ้นเร็วขึ้น จนกำลังยกมากกว่าน้ำหนักเมื่อใด เครื่องบินก็จะลอยตัวขึ้นสู่อากาศ ณ ระยะสูงที่ปลอดภัย นักบินจะเบาเครื่องเครื่องยนต์ลงตามเกณฑ์ในคู่มือ พับฐานเก็บล้อเพื่อให้แรงต้านทานน้อยลงแล้วจะได้รับความเร็วเพิ่มขึ้นเองอีกด้วย ตอนนี้นักบินจะวิทยุบอกหอบังคับการบินว่า เครื่องบินได้ขึ้นสู่อากาศเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว และขอเลิกติดต่อกับสนามบิน เจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่การบิน ต้องทราบตำบลที่อยู่ในอากาศของเครื่องบินทุกเครื่อง ดังนั้น นักบินจึงต้องใช้วิทยุรายงานมาตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผนปูมเดินอากาศว่า ได้บินอยู่ในระยะสูงเท่าใด ทิศทางใด ความเร็วเท่าใด และขณะนั้นบินอยู่เหนือตำบลอะไร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยผู้บังคับเครื่องบินจะเปิดเครื่องจักรกลชื่อว่านักบินอัตโนมัติ ให้ปฏิบัติงานแทนมนุษย์ผู้ซึ่งคอยตรวจดูเพียงให้เข็มต่างๆ ของเครื่องวัดชี้ที่ช่องสีเขียวตลอดเวลาซึ่งเป็นการผ่อนแรงดีมาก



          เมื่อใกล้ที่หมายปลายทาง นักบินจะลดความสูงลงทีละน้อยพร้อมๆ กับวิทยุเรียกหอบังคับการบินของสนามบินนั้นๆ เพื่อขอนำเครื่องลง วงจรรอบๆ แต่ละสนามมีกฎเกณฑ์ วิธีการดำเนินการต่างกัน ซึ่งผู้มาเยี่ยมจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามข้อปลีกย่อยทุกอย่าง นักบินจะเหยียดฐานและล้อลงแล้วรายงานหอบังคับการบินอีกว่ากำลังร่อนทวนลมตรงมายังทางวิ่งท้ายสนามบินตามคำสั่งเมื่อใกล้พื้น นักบินจะผ่อนเครื่องยนต์ให้เดินเบาที่สุด เงยหัวเครื่องบินเพื่อให้กำลังยกลดน้อยลงกว่าน้ำหนัก ณ จุดนั้นก็บังคับเครื่องบินทอดตัวให้ล้อแปะที่พื้นปลายทางวิ่งพอดี ด้วยแรงเฉื่อยที่เหลืออยู่เครื่องบินจะวิ่งต่อไปอีก นักบินจะต้องใช้มือและเท้าประคองเลี้ยง ไม่ให้มีอาการเซหรือเลี้ยวออกนอกทาง แต่ในเวลาเดียวกันก็ค่อยๆ ห้ามล้อให้เครื่องวิ่งช้าๆ แล้วนำมาจอดในลานที่หอบังคับการบินกำหนดให้ เมื่อดับเครื่องยนต์ปิดสวิตซ์ต่างๆ แล้วก็ได้ชื่อว่าทำการบินอย่างปลอดภัย



เรือลอยน้ำได้อย่างไร?





การที่วัตถุจะลอยน้ำได้นั้นจะต้องมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ หรือเบาจนแรงลอยตัว(ของน้ำ)สามารถผลักให้ลอยได้

ซึ่งสามารถทำได้โดย
   เพิ่มปริมาตร ซึ่งเรานั้นสามารถเพิ่มได้โดยการเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสให้โดนน้ำมากขึ้น โดยทำให้เกิดเป็นรูปทรงแบบเรือนั้นเอง หรือการทำให้กวง


ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือ
  - เรือเหล็กที่ประกอบโครงสร้างด้วยแผ่นเหล็ก  ลอยน้ำด้วยการใช้ระบบเข้าไปช่วย โดยใช้เครื่องปั่นไฟเป็นตัวแรงขับ  ไปข้างหน้า และใช้ระบบควบคุมมาสั่งงานในการทำงาน  เรือสามารถถอยหลัง  เดินหน้า เอียงซ้าย เอียงขวาได้ เรือใช้น้ำมันดีเซล หรือที่คนไทยเรียกว่าเบนซิน   เป็นเชื้อเพลิงแต่เรือใช้ระบบน้ำเป็นตัวลดความร้อนออกส่งไปทางท่อน้ำทิ้ง ข้างท้ายเรือ ต่างกับรถยนต์ที่ให้อากาศเป็นตัวระบายความร้อน  และบริเวณท่าเทียบเรืออย่าไปคิดว่าน้ำทะเลจะสะอาดนะครับ  เพราะว่า น้ำมันและน้ำจะถูกปล่อยลงไปในน้ำ  มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น  เพราะกฎหมายการเดินเรือนาวี  บังคับไว้ว่าเรือ ที่ใช้เดินทางเพื่อการพาณิชย์จะต้องทำระบบกลั่นน้ำมันและแยกน้ำก่อนปล่อยลงทะเล  ที่คนเรือเรียกว่า Oil Changine เป็นตัวทำหน้าที่กรองน้ำมันกับน้ำเวลาลงมาทางท่อเดียวกันก่อนที่จะถูกปล่อยลงทะเล
 - การต่อเรือโดยการทำเป็นรูปโค้ง เพื่อประหยัดพื้นที่ในการสัญจร แต่เพิ่มพื้นที่การสัมผัสผิวน้ำ ทางด้านข้าง อีกทั้งยังมีพื้นที่ใช้ประโยชน์ได้ โดยการกันเป็นห้อง ๆ เป็นชั้น ๆ